ผู้ป่วยโรคเอดส์
มะรุมรักษาโรคเอดส์( HIV )
จากหนังสือ “รู้ลึกเรื่องมะรุม”รวบรวมโดยคุณ วิไลวรรณ อนุสารสุนทร
เราได้รับข่าวมหัศจรรย์จากเมืองมูโซมา ประเทศแทนซาเนีย
ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา พวกเขาได้ทำการรักษาคนไข้โรคเอดส์มากกว่า 100 คนโดยใช้ชา Artemisia Annua และมะรุมร่วมด้วยการดูแล อย่างใกล้ชิด ด้านจิตใจ อารมณ์ และสังคมของผู้ป่วย ผู้ป่วย 5 คนที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้ เป็นผู้ที่ได้เปลี่ยนจาก HIV – และแต่ละกรณีได้รับการยืนยัน
ตามหลักการแพทย์แผนปัจจุบัน มันเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ ถึงแม้ว่าคนป่วยจะได้รับการรักษาจนหายจากโรคเอดส์แล้ว เขาก้ยังคงมี HIV+ อยู่อย่างเดิมดังนั้น ผลการรักษาครั้งนี้จึงเป็นสิ่งที่มหัสจจรญ์และลึกลับมาก สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือ สุขภาพของคนป่วยทุกคนดีขึ้นอย่างมาก น้ำหนักเพิ่มขึ้น และสุขภาพโดยทั่วไปแข็งแรงขึ้น และผลกาตรวจ CD4 cell count ก็เพิ่มขึ้น
หมอและพยาบาลได้ใช้การรักษาด้วยวิธีเพิ่มภูมิต้านทานให้คนไข้โรคเอดส์ที่ Musoms คุณหมอได้ใช้วิธีเทดียวกันนี้และยาสมุนไพรธรรมชาติรักษาโรค ตั้งแต่ ไอ นอนไม่หลับ ปวดศรีษะ และโรคต่างๆ และหมอยังให้ความช่วยเหลือด้านอาราณ์ และจิตวิญญาณของคนไข้อย่างมาก
คนไข้ # 1 C.M.
� อายุ 62 ปี มีภรรยา 3 คน และเมื่อพบว่าตงเองเป็น HIV+ ได้ทิ้งภรรยาทั้ง 3 ไว้ที่หมู่บ้าน เพื่อไปรักษาตัว
� จาก HIV test ในปี 2002 ที่ AICT ศูนย์สุขภาพได้ผลบวก (จากการตรวจ 2 แบบCapillar (เจาะเลือด) และ Determine (การวินิจฉัยของแพทย์))
� อาการขณะนั้น : เริ่มใช้ A-3, มะรุม และเม็ด pawpaw
� อาการทั่วไปเริ่มดีขึ้น
� ตรวจดูอีกครั้งในปี 2003 (AICT ศูนย์สุขภาพ)
� ผล: บวก
� ตรวจอีก 3 ครั้งในเดือนมีนาคม 2004 (1.AICT ศูนย์สุขภาพ 2. DDH Bunda 3.โรงพยาบาลของรัฐ, Musoms)
ทั้ง 3 ครั้งได้ผล : ลบ
คนไข้ # 2 T.C.
� เสียชีวิตในปี 2004 ด้วยปัญหาเกี่ยวกับหัวใจเมื่ออายุ 45 ปี อย่างไรก็ตามเธอเป็นตัวอย่างที่ดี
ผลกการรักษาทำให้เธอเป็น ผลลบ
� แต่งงานและสามีเสียชีวิตปี 2000 มีบุตรธิดารวม 5 คน
� ตรวจที่ ร.พ.
� เริ่มมารักษาที่ Kaza Roho ในปี 2003
� เริ่มทำงานที่กระทรวงสาธารณสุขในเขต Mara & Ukerewe โดยการไปเยี่ยมคนไข้ตามบ้าน
� เริ่มใช้ยา A-3 และมะรุม
� ตรวจที่ศูนย์สุขภาพ AITC ในปี 2002 ก.พ. 2003 และ มิ.ย. 2003 ตรวจเลือดและหมอวินิจฉัยทั้ง 3 ครั้ง ได้ผลลบวก
� ตรวจอีกครั้ง ก.ย. 2003 ที่ศูนย์สุขภาพ Muaoms – ผลลบ
� ตรวจอีกครั้งที่ Muhmbili/ dar,
คนไข้ # 3 N.M.
� อายุ 25 ปี แต่งงานปี 2004
� เป็นพยาบาลและผดุงครรภ์ ทำงานที่ศูนย์สุขภาพ Bunda AICT จนถึงปี 2004
� ตรวจ ธ.ค. 2003 ที่ศูนย์สุขภาพ Bunda AICT – ผลบวก
� เริ่มใช้ A-3, กระเทียม และมะรุม
� ตรวจอีกครั้งที่ศูนย์สุขภาพ AITC มี.ค. 2003 – ผลบวก
� ตรวจอีกครั้ง ก.ค. 2004 ผล : ลบ
คนไข้ # 4 S.M.
� ตรวจปี 2002 ที่ศูนย์สุขภาพ AICT เมือง Musoms ผล : บวก
� เป็นวัณโรคในปี 2002
� เริ่มรับ A-3 และมะรุม
� 6 เดือนหลังจากนั้นอาการโดยทั่วไปดีขึ้นมาก
� ตรวจอีกครั้ง ก.ย. ที่ศูนย์สุขภาพ AICT ผล :ลบ
� ตรวจในปี 1999 โดยวิธี Capillars (ตรวจเลือด) (โดยได้ไปบริจาคเลือดที่ศูนย์สุขภาพ AICT เมือง Kazilankanda ผล : ลบ
� ตรวจอีกครั้ง ปี 2002 ณ. ที่เดิม ผล : ลบ
คนไข้ # 5 M.K.
� แต่งงานแล้ว
� ปี 2001 เริ่มจากรักษากับหมอท้องถิ่นที่ Ukerewe
� ตรวจ 2 ครั้งในปีนั้น ผลทั้ง 2 ครั้ง : ผลบวก
� ปี 2003 เริ่มใช้ A-3 ที่ศูนย์สุขภาพ AICT Mesoma ผล : บวก
� ตรวจ มิ.ย. 2004 ที่ ที่เดิม ทั้งตรวจเลือดและหมอวินิจฉัย ผล : ลบ
� ตรวจ 2 ครั้งที่ ร.พ. Bugando, Mwanza ผล : ลบ
� ตรวจ CD4 ในเดือน ก.ย. 2004 ได้ผล 815
� ตรวจอีกครั้งที่ศูนย์สุขภาพ Musoma ในเดือน ก.ย. 2004 ผล : ลบ
� ผลของการใช้ A-3 และมะรุมในการรักษา ช่วยเพิ่ม cell CD4 จะเห็นผลได้จากกรณีดังต่อไปนี้
คนไข้ # 6 M.N.
� อายุ 32 ปี
� มาที่ศูนย์สุขภาพ AICT Musoms ในปี 2002 ด้วยอาการค่อนข้างหนัก
� ตรวจพบผลบวกมาก่อนแล้ว
� ตรวจที่ศูนย์ ผล : บวก
� ขณะนั้น CD4 มีค่า 34
� เริ่มใช้ A-3 และมะรุมในการรักษา
� 3 เดือนหลังจากนั้น CD4 มีค่า 280
พบวิธีซ่อนตัวของเชื้อเอดส์
สำนักข่าวบีบีซีนิวส์- หลังจากทำการศึกษาอยู่นาน บัดนี้นักวิทยาศาสตร์พบแล้วว่า เชื่อเอชไอวีหลีกเลี่ยงฤทธิ์ยาเอดส์ตัวใหม่ได้อย่างไร
ถึงแม้ยาต้านโรคเอดส์ส่วนใหญ่จะสามารถขจัดเชื้อเอชไอวีออกไปได้บางส่วน แต่ยาเหล่านี้ไม่สามารถทำลายเชื้อดังกล่าวให้สิ้นซากจากร่างกายของผู้ติดเชื้อได้ และเชื้อจะยังคงซุกซ่อนอยู่ในร่างกาย ดังนั้นหากผู้ที่เชื่อว่าตัวเองหายจากโรคเอดส์แล้วไม่ดูแลสุขภาพให้ดี และไม่รับประทานยาอย่างต่อเนื่องก็มักจะมีโอกาสกลับมาเป็นได้ใหม่
เหตุผลนี้เองที่ทำให้ผู้ป่วยโรคเอดส์ต้องรับประทานยาที่มีราคาแพงไปตลอดชีวิต เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อเอชไอวีและป้องกันอาการกำเริบ แต่การทำเช่นนี้ก็อาจไม่ได้ผลเสมอไป เพราะยังไม่มีผู้ใดออกมายืนยันได้ว่าเชื้อเอชไอวีจะไม่ดื้อยาและไม่กลับมาแสดงอาการอีกในภายหลัง
อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ก็ไม่ย่อท้อโดยได้พยายามหาวิธีตามล่าและฆ่าเชื้อเอชไอวีที่หลบซ่อนอยู่ตลอดมา และล่าสุด คณะนักวิจัยจากวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์แมสซาชูเซตส์ก็ค้นพบวิธีที่เชื้อเอชไอวีหลบซ่อนจากการทำลายของยาเอดส์ตัวใหม่
โดยทั่วไปเชื้อเอชไอวีจะทำลายระบบภูมิคุ้มกันของเซลล์ที่เรียกกันว่า ที-เซลส์ และเดิมทีนักวิทยาศาสตร์และวงการแพทย์ก็คิดว่าเชื้อร้ายดังกล่าวจะทำลายเฉพาะเซลล์นี้ในขณะที่มันกำลังทำงานเท่านั้น แต่จากการศึกษาวิจัยที่ผ่านๆ มา ชี้ให้เห็นว่าไวรัสดังกล่าวจะทำงานอย่างเป็นระบบเพื่อให้ที-เซลล์ติดเชื้อแม้ในขณะที่เซลล์ไม่ทำงาน
นอกจากนี้เชื้อเอชไอวียังอาศัยเซลล์ดังกล่าวเป็นที่หลบซ่อน จึงทำให้ยาต้านโรคเอดส์ทำลายเชื้อเอชไอวีได้ไม่ทั่วถึง ยิ่งไปกว่านั้น คณะวิจัยยังพบว่าเชื้อเอชไอวีสามารถทำให้เซลล์ที่แบ่งตัวจากที-เซลล์ติดเชื้อได้อีกด้วย
ฉะนั้นเซลล์ที่สามซึ่งเกิดจากการแบ่งตัวที่เรียกว่าบี-เซลล์จึงติดเชื้อไปด้วย และยังเป็นการเร่งให้เชื้อเอชไอวีแพร่ขยายเร็วขึ้นด้วย เพราะเมื่อบี-เซลล์สัมผัสกับที-เซลล์ในขณะที่มันไม่ทำงาน ก็จะทำให้ที-เซลล์เกิดความอ่อนแอและไม่สามารถต้านทานเชื้อเอชไอวีได
โรเจอร์ โพเมอร์อานต์ซ นักวิจัยโรคเอดส์จากมหาวิทยาลัยโทมัส เจฟเฟอร์สัน กล่าวว่า การค้นพบความเกี่ยวพันที่ซับซ้อนนี้ จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ค้นคว้าหาวิธีกำจัดเชื้อเอชไอวีได้ โดยในทางทฤษฎีนั้นอาจจะเป็นไปได้ที่จะขัดขวางหรือยับยั้งการเกิดกระบวนการดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อเอชไอวีเข้าไปเกาะที-เซลล์ ในขณะที่มันไม่ทำงาน
2.สวัสดีครับพี่เจี๊ยบ ผมตื่นเต้นมากหลังจากทานมะรุมแคปซูลตราพี่จุกของพี่เจี๊ยบเลยอยากจะแบ่งปันให้ฟังดังนี้ คือผมป่วยเพราะไปได้รับเชื้อ HIV มา ตอนที่เป็นนั้นมีอาการเหนื่อยอ่อนเพลียง่าย พอตกเย็นก็มีไข้ต่ำๆตลอดเวลาน้ำหนักตัวลดลงเป็น 10 โล ทำอะไรก็ไม่ค่อยไหวต้องเลิกเล่นกีฬาไปโดยปริยาย เคยทานมะรุมของเจ้าอื่นมาเป็นปีก็ไม่เห็นดีขึ้น รู้สึกหมดหวังสุดๆ แต่พอมาอ่านเจอผู้ป่วยในเว็บไซ้ท์ที่กินมะรุมตราพี่จุกของพี่เจี๊ยบแล้วหายเป็นปกติ ก็รู้สึกทึ่ง(แต่ก็ไม่ค่อยเชื่อว่าจะได้ผลจริงเพราะกินที่อื่นมาก็ไม่ได้ผล)เลยทดลองสั่งซื้อมากิน 2 กระปุก รู้สืกดีใจเพราะสินค้ามาถึงเร็ว พอเปิดกระปุกดูก็ได้กลิ่นของมะรุมหอมมากๆและมีสีเขียวสดไม่เหมือนที่อื่นๆที่เคยซื้อมา รู้สึกประทับใจมาก กินอยู่ประมาณ 1 เดือน ตอนนี้รู้สึกว่าร่างกายของผมแข็งแรงขึ้น น้ำหนักตัวกลับมาเท่าเดิม หน้าตาและบุคคลิกภาพดูดีเหมือนเดิม ไม่มีไข้ตอนเย็นแล้วและที่สำคัญคือผมสามารถกลับมาเล่นกีฬาได้เหมือนเดิมแล้ว สามารถใช้ชีวิตได้เหมือนปกติทุกอย่าง ผมดีใจมากจริงๆและตั้งใจว่าจะทานมะรุมแคปซูลตราพี่จุกของพี่เจี๊ยบต่อไปเรื่อยๆ...ขอให้เพื่อนๆอย่าเพิ่งหมดหวังนะครับ ลองทานมะรุมตราพี่จุกของพี่เจี๊ยบดูผมเชื่อว่าคงหายได้แน่นอน....คุณหนุ่ม (นามสมมติ)
3."สวัสดีครับคุณเจี๊ยบ ผมขอสั่งมะรุมแคปซูลตราพี่จุก 1 โหล ส่งที่อยู่เดิมนะครับ"19 สิงหาคม 2558 น้ำเสียงรัวตื่นเต้นมากจนฟังไม่ค่อยจะทัน....ย้อนหลังไปเมื่อประมาณเดือนมกราคมต่อเดือนกุมภาพันธ์ 58 ที่ผ่านมา คุณสอง( นามสมมติ )ได้โทรฯมาปรึกษาด้วยน้ำเสียงของความสิ้นหวังเพราะภรรยาตัวเองได้รับเชื้อ HIV มาจนค่า CD4 ลดต่ำลงเหลือแค่ 1(หนึ่ง)เท่านั้น...ย้ำนะครับเหลือแค่ 1 เท่านั้น ซึ่งคุณหมอให้นำภรรยากลับมาดูแลที่บ้านโดยให้เหตุผลในทำนองว่า...หมดหวังแล้ว...แต่ด้วยความต้องการจะช่วยชีวิตภรรยาจนวินาทีสุดท้าย..คุณสองจึงเซิร์สหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตและได้พบกับมะรุมแคปซูลตราพี่จุก...หลังจากได้พูดคุยและรับข้อมูลจากคุณแทน..คุณสองจึงตัดสินใจ(โดยไม่ค่อยเชื่อเท่าไรนัก)ลงทุนซื้อมะรุมตราพี่จุกจำนวน 1 โหลด้วยเงิน2,500 บาทเพื่อซื้อชีวิตของภรรยาสุดที่รักเอาไว้..โดยไม่ค่อยเชื่อเท่าไรนัก.เวลาผ่านไปประมาณ 3 เดือน..ปาฏิหารย์(มีจริง)ก็ได้บังเกิดขึ้นแก่ภรรยาของคุณสอง เพราะหลังจากทานมะรุมแคปซูลและไปพบหมอตามนัด ปรากฎว่าค่า CD4 กลับสูงขึ้นเป็น 178 ทำให้ทั้งคุณสองและภรรยาปลาบปลื้มใจเป็นอย่างมาก คุณหมอได้ถามว่าไปทำอะไรมา แต่คุณสองก็ไม่กล้าตอบหมอว่าทานมะรุมเพราะกลัวหมอจะต่อว่าและสั่งห้ามกินมะรุม ...แต่แล้วคุณสองก็สั่งซื้อเรื่อยมา ค่า CD4 ก็ดียิ่งขึ้นตามลำดับเป็น 300 กว่า ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้แก่คุณหมอมากๆและล่าสุดค่า CD4 เพิ่มขึ้นเป็น 420 แล้ว !!!!( 19 สิงหาคม 2558 ) ครอบครัวคุณสองก้าวพ้นความทุกข์ทรมานมาได้และขณะนี้มีความสุขมากๆ คุณสองสัญญาว่าถ้าคุณหมอที่ตรวจรักษาภรรยาถามว่าไปกินอะไรมาเขาจะบอกหมอว่า"กินมะรุมตราพี่จุกมา"....ยินดีด้วยครับ
วันนี้ 12 มกราคม 2559 ผมตื่นเต้นมากและจะจำวันนี้ตลอดไป เพราะเมื่ออาทิตย์ที่แล้วภรรยาผมไปพบหมอและตรวจเลือดตามที่นัดไว้ ซึ่งผลเลือดออกมา"ปรากฎว่าไม่พบเชื้อไวรัส HIV ในเลือดเลย(หมอบอกว่าถ้าพบเชื้อไวรัสHIV น้อยกว่า 40 ตัว จะถือว่าไม่มีเชื้อแล้ว)"ภรรยาผมหายเป็นปกติ แล้ว !!!! ผมดีใจมากๆ...ไม่อยากจะเชื่อเลยแต่ก็ต้องเชื่อว่ามะรุมตราพี่จุกสามารถรักษาโรคHIVของภรรยาผมได้...ถรรยาของผมหายดีเหมือนได้ชีวิตใหม่แล้ว...ขอบคุณมะรุมพี่จุกมากๆๆครับ
วันที่ 4 กรกฎาคม 2559 Up date ข้อมูล คุณสองซึ่งมีภรรยาเป็นHIV
เมื่อเช้าวันที่ 4 ก.ค 59 ได้โทรมาหาคุณเจี๊ยบเพื่อซื้อมะรุมแคปซูลให้ภรรยาอีก 1 โหล พร้อมแจ้งข่าวคราวของภรรยาด้วยความดีใจอย่างที่สุดว่า ... เมื่อ 3 เดือนก่อน ไปตรวจมา ไม่พบเชื้อ HIV แล้ว และค่า CD4 ได้เพิ่มขึ้นมาเป็น 560 สุขภาพแข็งแรงสามารถใช่ชีวิตได้ตามปกติ... คุณหมอไม่ได้ให้รับยาต้านอีกต่อไป...มหัศจรรย์จริงๆ... แต่คุณสองก็ยังคงให้ภรรยาทานมะรุมพี่จุกอย่างสม่ำเสมอไปตลอด เพราะมะรุมพี่จุก ทำให้คุณสองได้ภรรยาคู่ชีวิตคนเดิม ซึ่งแข็งแรงกลับคืนมา ... ทางกลุ่มสมุนไพรบ้านไทย66 ขอแสดงความยินดี อย่างยิ่งกับคุณสองด้วย
ตรวจสอบราคา"มะรุมตราพี่จุก"ได้ที่=>http://34ac63a6.linkbucks.com
มะรุมไม่ใช่ยา ไม่มีผลในการรักษาโรค โปรดพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อ
หากซื้อไปแล้วทางเราจะไม่รับคืนสินค้า
" ขอเชิญทุกท่านร่วมสร้างมหากุศลด้วยการแบ่งปันประสบการณ์อันทรงคุณค่าของท่านให้สังคมได้รับรู้ ได้ที่ maroomthai@gmail.com ขอบคุณครับ"