ราคาน้ำยาบ้วนปาก
สมุนไพรมะรุม
น้ำยาบ้วนปากสมุนไพรมะรุม
(Moringa Herbal Mouthwash )
ตรา" ยักษ์ยิ้มส์ "
ผลิตจากสมุนไพรธรรมชาติ 100%
“ลูกสาวมีปัญหากลิ่นปากมากค่ะและเป็นมาหลายปีแล้ว พอเพื่อนๆ แสดงให้เห็นว่าเธอมีกลิ่นปาก ทำให้เธอเครียดกลายเป็นคนพูดน้อยลง และไม่ค่อยอยากคุยกับใคร ฉันอยากจะช่วยเธอ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดีคะ..."
เรื่องของกลิ่นปาก
กลิ่นปากคือลมหายใจที่ผ่านช่องปากมีกลิ่นเหม็นเป็นครั้งคราวหรือมีกลิ่นตลอดเวลาก็ได้ คนส่วนใหญ่มักไม่รู้ตัวว่ามีกลิ่นปาก อาจทดสอบด้วยตัวเองด้วยการใช้มือบังบริเวณปากและจมูก แล้วหายใจออกทางปาก ตามด้วยหายใจเข้าทางจมูกก็จะได้กลิ่นปาก
สาเหตุ
· อนามัยช่องปากไม่ดี มีเศษอาหารค้างในช่องปากเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากฟันผุ เหงือกอักเสบ การแปรงฟันไม่สะอาด ไม่ได้ใช้ไหมขัดฟันหลังกินอาหาร จึงมีเศษอาหารค้างอยู่ในช่องปาก ซอกฟัน นอกจากนี้ยังเกิดจากคราบแบคทีเรียที่เกาะตามฟัน เหงือก ลิ้น ซอกฟันเก ฟันปลอมและอุปกรณ์ทางทันตกรรม เมื่อเชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโตเพิ่มจำนวนมากขึ้น ก่อให้เกิดกลิ่นเหม็นได้ เลือดออกตามไรฟันเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของกลิ่นปาก
· บุหรี่ คราบสารนิโคติน และทาร์ (tar) ในบุหรี่ที่เคลือบตามฟันและติดแน่นอยู่กับเหงือก ช่องปากและปอด ทำให้ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น
· สุขภาพทั่วไป กลิ่นปากอาจเกิดจากโรคต่างๆ เช่น ทอนซิลอักเสบ ปอดอักเสบ แผลในช่องปาก ไซนัสอักเสบ ไข้หวัด โรคของกระเพาะอาหาร ยาบางชนิด
· อาหาร โดยเฉพาะเครื่องเทศ กระเทียม หอม สุรา ซึ่งจะมีกลิ่นติดปากประมาณ 1-2 วัน นมและเนยก็มีส่วนให้เกิดกลิ่นปากได้
· ปากแห้งอันมีสาเหตุมาจากน้ำลายน้อย เช่น ผู้มีอาชีพใช้เสียง หรือผู้ป่วยภูมิแพ้ที่นอนอ้าปากหายใจทางปากขณะหลับ การเคี้ยวอาหารช่วยให้น้ำลายออกมากขึ้น
· อายุ แม้ว่าจะดูแลอนามัยช่องปากเป็นอย่างดีแล้วก็ตาม อายุที่สูงขึ้นมีส่วนทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของต่อมน้ำลาย ผลิตน้ำลายน้อยลง
การดูแลตนเอง กลิ่นปากสามารถหายได้ด้วยการรักษาสุขอนามัยช่องปากให้ดี หากยังไม่ดีขึ้นควรพบทันตแพทย์
· ทางที่ดีที่สุดในการแก้ไขปัญหากลิ่นปากคือ การแปรงฟันหลังอาหารทุกมื้อและใช้ไหมขัดฟันทุกวัน อีกทั้งพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากทุก 6 เดือน
· หากมีเลือดออกตามไรฟันขณะแปรงฟันหรือหลังใช้ไหมขัดฟันเป็นเวลาเกิน 3 สัปดาห์ อาจเกิดจากเหงือกอักเสบ ควรพบทันตแพทย์
· ควรแปรงลิ้นให้ถึงโคนลิ้นด้วยแปรงที่อ่อนนุ่มทุกวัน เพราะลิ้นเป็นแหล่งสะสมแบคทีเรียเช่นกัน พบว่าผู้ที่แปรงลิ้นมีกลิ่นปากน้อยกว่าผู้ที่แปรงฟันโดยไม่แปรงลิ้น
· ผู้ที่สูบบุหรี่ควรหยุดสูบบุหรี่ทันที กลิ่นปากจะหมดไปหลังหยุดสูบบุหรี่ 2 สัปดาห์
· ดื่มน้ำปริมาณมากเพื่อป้องกันปากแห้ง
· กินผักสดและผลไม้ที่มีกากใยอาหาร เป็นการช่วยทำความสะอาดฟัน
· หลีกเลี่ยงอาหารที่มีกลิ่นแรง เช่น หอม กระเทียม เครื่องเทศ
· น้ำยาบ้วนปาก ยาอม และสเปรย์ดับกลิ่นปาก ช่วยบดบังหรือระงับกลิ่นปากได้ชั่วคราว ไม่ควรอมยาอมที่มีรสหวานเพราะเป็นเหตุให้แบคทีเรียเติบโตดี ส่งผลให้ฟันผุและเกิดกลิ่นปากมากขึ้น
· ทำความสะอาดฟันปลอมทุกคืนตามคำแนะนำของทันตแพทย์
· ไม่ควรงดอาหารบางมื้อเพราะการเคี้ยวช่วยเพิ่มการหลั่งน้ำลาย
การรักษา
· ตรวจสุขภาพช่องปากเพื่อหาสาเหตุ และรักษาตามสาเหตุ
· ส่งไปพบแพทย์ หากสาเหตุของกลิ่นปากไม่ได้เกิดจากปัญหาในช่องปาก
ข้อมูลโดย : นิตยสาร Health Today, Updated: 13/08/2007
ปัญหากลิ่นปากหรือลมหายใจไม่สะอาด ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเล็ก แต่ทำให้เสียบุคลิกภาพ และแสดงถึงปัญหาของสุขภาพในช่องปากซึ่ง หากเกิดขึ้นกับใครก็ทำให้ขาดความมั่นใจ และหลายคนก็รู้สึกเป็นเรื่องน่าอาย จึงไม่กล้าที่จะปรึกษาผู้อื่นมากนัก นอกจากการดูแลสุขภาพฟันและช่องปากด้วยการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำทุกครั้งหลังอาหารแล้ว กลเม็ดพิชิตกลิ่นปากอีกวิธีหนึ่งที่สะดวก รวดเร็ว และทันใจวัยรุ่นยุคนี้ก็คือ การบ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปาก
ข้อเท็จจริงต่างๆเกี่ยวกับสารฟลูออไรด์ในน้ำยาบ้วนปาก
ถึงแม้เป็นที่รู้กันดีว่าสารฟลูออไรด์ช่วยทำให้ฟันแข็งแรงแต่มันก็ถือว่าเป็นสารเคมีสะสมที่อันตรายตัวหนึ่ง ซึ่งหมายถึงสารนี้ถ้ามีสะสมอยู่มากๆหรือนานเข้าในร่างกายสามารถก่อเกิดอันตราย ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพส่วนมากแนะนำว่าฟลูออไรด์ควรถูกบริโภคเป็นจำนวนเล็กน้อย ในช่วงระยะกว่าสองทศวรรษที่ผ่านมามีการถกเถียงกันมากถึงการเติมสารฟลูออไรด์ลงในน้ำดื่มและผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากต่างๆถ้าฟลูออไรด์ถูกเติมลงในน้ำประปา เรายังจำเป็นต้องมีมันในน้ำยาบ้วนปากอีกหรือ ? หรือการแก้ไขด้วยการใช้น้ำยาบ้วนปากบางชนิด ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เกินมาตรฐาน (เข้มข้นมากกว่า 26%) ยังเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดมะเร็งบริเวณศรีษะ และลำคออีกด้วย น้ำยาบ้วนปากที่สกัดจากสารธรรมชาติจะไม่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ซึ่งถือว่าปลอดภัยจากสาเหตุข้างต้นที่กล่าวมา
วิธีใช้
อมกลั้วคอทุกครั้งหลังอาหารโดยเฉพาะก่อนนอนและตอนเช้า จะรู้สึกช่องปากสะอาด สดชื่น ไม่มีกลิ่นปาก
ส่วนผสม
กานพลู ชะเอม อบเชย ใบสะระแหน่และสมุนไพรนานาชนิด
น้ำยาบ้วนปากสมุนไพรตรา "ยักษ์ยิ้มส์ "
สมุนไพร : กานพลู
กานพลูเป็นสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมเฉพาะ เป็นพืชที่ชอบความชื้นสูง ขึ้นในป่าดงดิบ เป็นพืชประจำถิ่นของประเทศฟิลิปปินส์
สรรพคุณ
เปลือกต้น แก้ปวดท้อง แก้ลม คุมธาตุ
ใบ แก้ปวดมวน
ดอกตูม รับประทานขับลม ใช้แต่งกลิ่น ดอกกานพลูแห้ง ที่ยังไม่ได้สกัดเอาน้ำมันออกเอาน้ำมันออก และมีกลิ่นหอมจัด มีน้ำมันหอมระเหยมาก รสเผ็ด ช่วยขับลม แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ปวดท้อง และแน่นจุกเสียด แก้อุจจาระพิการ แก้โรคเหน็บชา แก้หืด แก้ไอ แก้น้ำเหลืองเสีย แก้เลือดเสีย ขับน้ำคาวปลา แก้ลม แก้ธาตุพิการ บำรุงธาตุ ขับเสมหะ แก้เสมหะเหนียว ขับผายลม ขับลมในลำไส้ แก้ท้องเสียในเด็ก แก้ปากเหม็น แก้เลือดออกตามไรฟัน แก้รำมะนาด กับกลิ่นเหล้า แก้ปวดฟัน
ผล ใช้เป็นเครื่องเทศ เป็นตัวช่วยให้มีกลิ่นหอม
น้ำมันหอมระเหยกานพลู ใช้เป็นยาชาเฉพาะแห่ง แก้ปวดฟัน ฆ่าเชื้อทางทันตกรรม เป็นยาระงับการชักกระตุก ทำให้ผิวหนังชา
ส่วนที่ใช้ เปลือกต้น ใบ ดอกตูม ผล น้ำมันหอมระเหยกานพลู
วิธีและปริมาณที่ใช้
ยาแก้ปวดฟัน
ใช้นำมันจากการกลั่นดอกตูมของดอกกานพลู 4-5 หยด ใช้สำลีพันปลายไม้ จุ่มน้ำมันจิ้มในรูฟันที่ปวด จะทำให้อาการปวดทุเลา และใช้แก้โรครำมะนาดก็ได้ หรือใช้ทั้งดอกเคี้ยว แล้วอมไว้ตรงบริเวณที่ปวดฟันเพื่อระงับอาการปวด หรือใช้ ดอกกานพลูตำพอแหลกผสมกับเหล้าขาวเพียงเล็กน้อยพอแฉะใช้จิ้มหรืออุดฟันที่ปวด
ระงับกลิ่นปาก
ใช้ดอกตูม 2-3 ดอก อมไว้ในปาก จะช่วยทำให้ระงับกลิ่นปากลงได้บ้าง
สารเคมี
Eugenol, Cinnamic aldehyde Vanillin น้ำมันหอมระเหย Caryophylla
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
- โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
- สำนักงานเกษตรจังหวัดมุกดาหาร
สมุนไพร : ชะเอมเทศ
สรรพคุณ
- บรรเทาอาการอ่อนเพลียเรื้อรังและปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง
- ช่วยย่อยอาหาร
- ช่วยรักษาผื่นเอ็กซีมา
- ช่วยให้ฟื้นตัวจากไวรัสตับอักเสบได้เร็วขึ้น
- เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
- บรรเทาโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ
- อาจมีประโยชน์ต่อผู้ที่ประจำเดือนผิดปกติหรือมีภาวะหมดประจำเดือน
ประโยชน์ของชะเอมเทศ
สรรพคุณทางยาอยู่ในรากหรือเหง้าซึ่งมีสารกลีซีร์ริซิน (glycyrrhizin) และสารเคมีหลายร้อยชนิด เช่น ไฟโตเอสโตรเจนและฟลาโวนอยด์ ชะเอมเทศถือเป็นหนึ่งในสมุนไพรที่นำมาใช้กันแพร่หลายที่สุด และมีการศึกษาวิจัยสรรพคุณยา ในทศวรรษ 1970 ชะเอมเทศเป็นสมุนไพรอันดับต้นๆ ที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติสหรัฐฯ นำมาค้นคว้าตามหลักสูตรการศึกษาด้านอาหาร
ชะเอมเทศช่วยแก้ปัญหาในทางเดินหายใจโดยกำจัดเชื้อไวรัสที่ก่อกวนทางเดินหายใจ บรรเทาอาการไอและเจ็บคอ ทำให้น้ำมูกลดลง สารกลีซีร์ริซินในชะเอมเทศจะกระตุ้นต่อมอะดรีนาลีนให้ผลิตฮอร์โมนบางชนิด จึงช่วยรักษาอาการอ่อนเพลียเรื้อรัง ปวดกล้ามเนื้อ และความผิดปกติอื่นๆ ที่เกิดจากฮอร์โมนคอร์ติโซล (cortisol) จากต่อมหมวกไต นอกจากนี้ชะเอมเทศยังรักษาการอักเสบได้ทุกประเภท และใช้รักษาโรคไวรัสตับอักเสบ โดยขจัดการอักเสบภายในตับและกำจัดไวรัสที่มักเป็นสาเหตุสำคัญของโรคนี้ ในญี่ปุ่นมีการใช้สารสกัดจากรากชะเอมเทศรักษาตับอักเสบมานานกว่า 20 ปี มีการศึกษาทางคลินิกพบว่ารากชะเอมเทศช่วยลดระดับเอนไซม์ตับ (amino-transferase) ทำให้เซลล์ตับดีขึ้น
สมุนไพร : อบเชย
อบเชยเป็น สมุนไพรที่ให้กลิ่นหอม นิยมนำมาเป็นเป็นสมุนไพรหลักในการผลิตยาธาตุ ยาหอม ยานัตถุ์ทั้งหลาย และเนื่องจากอบเชยมีกลิ่นหอมจึงถูกนำมาใช้เป็นเครื่องเทศปรุงอาหารที่เรารู้จักกันดีเช่น พริกแกงกระหรี่หรือผงกระหรี่และหรือพะโล้ เพราะมีสรรพคุณในการช่วยย่อยอาหารมันๆ เช่น หมูสามชั้นที่นำมาทำพะโล้กับไข่นั้นเอง
การใช้ประโยชน์ของอบเชยนั้น นิยมใช้ส่วนของเปลือกต้นที่มีกลิ่นหอมเนื่องจากมีส่วนประกอบสำคัญคือน้ำมันหอมระเหย เปลือกของอบเชยจะมีรสฝาดเพราะมีแทนนินสูง เผ็ด หวาน สุขุม ซึ่งมีสรรพคุณขับลม ช่วยย่อย บำรุงธาตุ บำรุงกำลัง บำรุงหัวใจ ดังนั้นอบเชยจึงเป็นสมุนไพรหลักร่วมกับตัวยาอื่นในยาธาตุ เพื่อเพิ่มความสดชื่น ลดอาการอ่อนเพลีย แก้โรคท้องร่วงเพราะมีส่วนช่วยต้านแบคทีเรียในกระเพาะอาหาร ขับปัสสาวะ หรือเพียงแต่นำเปลือกอบเชยไปต้มน้ำก็ได้ยาธาตุน้ำสูตรอบเชยล้วนๆ กินแก้ท้องอืด ท้องเฟ้ออาหารไม่ย่อย ช่วยขับลมได้เป็นอย่างดี
สมุนไพร : ใบสะระแหน่
ส่วนที่ใช้
ใบสดและลำต้น
สรรพคุณ
สะระแหน่ มีฤทธิ์เย็นรสเผ็ด น้ำมันสาระแหน่ช่วยขจัดลมร้อน ใช้เป็นยาดับร้อน ถอนพิษไข้ ขับลม ขับเหงื่อ รักษาอาการหวัดลมร้อน ใช้ผสมยาหรือยาอมเพื่อให้เย็นชุ่มคอ
1. รักษาอาการปวดศรีษะ ปวดฟัน เจ็บคอ เจ็บปาก เจ็บลิ้น โดยดื่มน้ำต้มใบสะระแหน่ 5 กรัม กับน้ำ 1 ถ้วย ผสมเกลือเล็กน้อย วันละ 2 ครั้ง
2. รักษาอาการบิดท้องร่วง อุจจาระเป็นเลือด โดยนำใบสะระแหน่ต้มดื่มแต่น้ำ
3. แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย โดยตำใบสะระแหน่ให้ละเอียด พอกบริเวณที่โดนกัด
4. ช่วยห้ามเลือดกำเดาได้ โดยใช้สำลีชุบน้ำที่คั้นจากใบสะระแหน่ หยอดที่รูจมูก
5. รักษาอาการปวดหู โดยนำน้ำคั้นจากใบสะระแหน่หยอดหู จะช่วยบรรเทาอาการปวดได้ดี
6. รักษาอาการหน้ามือตาลาย โดยรับประทานน้ำต้มใบสะระแหน่และขิงสด
ราคาขายปลีกและราคาขายส่ง
ขนาด/ขวด |
ขายปลีก |
ขายส่ง/โหล |
200 มล. |
90 บ. |
900 บ. |
ผลิตภัณฑ์มะรุมทุกชนิดบนเว็บไซต์นี้ไม่มีผลในการรักษาโรคใดๆทั้งสื้น
ลูกค้าโปรดใช้การพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อ
เพราะหากซื้อไปแล้ว เราไม่รับคืนสินค้า
คุณ เจี๊ยบ หมายเลข 089-771-6647
คุณ แทน หมายเลข 089-771-9005
email: maroomthai@gmail.com
นะคะ ขอบคุณค่ะ
หมายเหตุ : 1.ค่าส่ง ไปรษณีย์ EMS ขวดละ70 บาททั่วประเทศ ในกรณีที่สั่งซื้อสินค้าตั้งแต่ 1 โหล ขึ้นไปคิดค่าส่งEMS ขวดละ 25 บาท
2.ราคาที่เสนอนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ โดยขอสงวนสิทธิ์การแจ้งล่วงหน้า...นะคะ