ผู้ป่วยโรคมะเร็ง
มะรุมกับผู้ป่วยโรคมะเร็ง
(จากในหนังสือนาฬิกาเพื่อชีวิตโดยคุณวิไลวรรณ อนุสารสุนทร )
ในจำนวนคนที่ได้รับผลดีเป็นอย่างมากจากการใช้ใบมะรุมผง ได้แก่บุคคลในครอบครัว"อนุสารสุนทร"คือน้องสาวคนเล็กและพี่สาวคนรอง ก้อนเนื้อที่เต้านมของน้องสาว เริ่มทำท่าจะโตขึ้น แพทย์จึงนัดทำการตัดชิ้นเนื้อไปพิสูจน์ให้แน่ใจว่าไม่ได้เป็นมะเร็ง เผอิญเป็นเวลาที่น้องสาวเริ่มรับประทานผงมะรุม เมื่อถึงเวลาที่แพทย์ตรวจ ปรากฏว่าก้อนเนื้อที่มีมานานได้หายไปอย่างน่าประหลาดใจ และไม่กลับมาอีกเลยจนทุกวันนี้ ส่วนพี่สาวคนรองมีอาการมากกว่าคือเจ็บมากแพทย์ที่สหรัฐอเมริกาตรวจแล้วลงความเห็นว่า อาจจะเป็นมะเร็งทรวงอก จึงตัดชิ้นเนื้อไปพิสูจน์ ผู้เขียนจึงได้ขอร้องให้พี่สาวลองรับประทานผงมะรุมดู 4 เดือน หลังจากนั้นผลการตรวจครั้งที่ 3 ที่ประเทศฮอลแลนด์ พบว่า ก้อนเนื้อนั้นได้หายไปแล้ว ข้อเขียนนี้ไม่ได้ยืนยันว่า ใบมะรุมช่วยรักษาโรคมะเร็งได้เพราะหลักฐานในการพิสูจน์ยังมีไม่มากพอ เพียงแต่เป็นประสบการณ์เฉพาะบุคคลเท่านั้น
เพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่งที่วัดป่าธรรมชาติ ก็มีลักษณะเช่นเดียวกัน คือ หมอตรวจเจอก้อนเนื้อที่ทรวงอก แต่หลังจากรับประทานผงมะรุมแล้ว ก้อนเนื้อนั้นก็หายไป นี่ เป็นสัญญาณที่ดีและพอจะมีความหวังได้ว่า ผงมะรุมอาจช่วยคลี่คลายปัญหาได้ หากท่านรู้จักผู้ที่ประสบปัญหาเช่นเดียวกันนี้ ช่วยบอกต่อๆกันไปจะเป็นพระคุณยิ่ง
คนที่สองเป็นลูกสาวของเพื่อน เธอเป็นมะเร็งเต้านม ผ่านการผ่าตัดมาแล้ว 2 ครั้ง ขณะนี้ได้ลุกลามไปถึงบริเวณกระดูกแล้ว เธอก็มีกำลังใจดี ร่างกายแข็งแรง ไม่เคยมีอาการแพ้ยาแต่อย่างใด หลังการผ่าตัดเธอก็สามารถฟื้นขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว และสามารถขับรถได้ด้วย เธอรับประทานทั้งใบแห้งและเมล็ดมะรุม เป็นประจำ ขณะเดียวกันก็รับประทานเห็ด 3 อย่างตามคำแนะนำของท่านอาจารย์สุทธิวัสส์อย่างสม่ำเสมอ ถึงแม้ว่าอาการมะเร็งยังไม่หายไป แต่เธอก็เชื่อว่าทั้งมะรุมและเห็ดมีส่วนทำให้ร่างกายของเธอแข็งแรง และพร้อมที่จะต่อสู้โรคร้ายต่อไป ขณะนี้เธอกำลังรอการตัดสินใจจากแพทย์ว่าจะต้องรักษาด้วยกัมมันตภาพรังสีหรือไม่
คนสุดท้ายเป็นเพื่อนสนิท เป็นมะเร็งที่ปีกมดลูก ผ่าตัดมาเรียบร้อยแล้วหลังการผ่าตัดเธอรับประทานทั้งมะรุมผงและมะรุมเม็ด รวมทั้งเห็ด 3 อย่าง ขณะที่แพทย์ให้ความเห็นว่า มะเร็งหายสนิทแล้ว แต่เพื่อความไม่ประมาทเธอก็ยังไปรับการตรวจจากแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
ประสบการณ์ของผู้รับประทานมะรุมแคปซูลตราพี่จุก
( นอกเหนือจากในหนังสือนาฬิกาเพื่อชีวิต )
ขอขอบพระคุณบุรุษนิรนามที่ได้กรุณาส่งข้อมูลดีๆอย่างนี้มาแบ่งปันให้เพื่อนๆพี่น้องคนไทยทุกๆคน
1.คุณส้ม( นามสมมติ ) อายุประมาณ 30 ปี รับราชการอยู่ที่หน่วยราชการแห่งหนึ่ง คลำพบก้อนแข็งที่บริเวณคางใต้ขากรรไกรด้านซ้าย กดไม่เจ็บ แต่ไม่แน่ใจว่าก้อนดังกล่าวผิดปกติหรือไม่ เพราะพบก้อนนี้มาเกือบ 1 ปี แล้ว และรู้สึกว่าเริ่มโตขึ้นทีละน้อยๆ จึงตัดสินใจไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จังหวัดสุพรรณบุรี แพทย์ให้ความเห็นว่าต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอโตอาจเนื่องมาจากเกิดการอักเสบในลำคอ จึงจ่ายยาแก้อักเสบชนิดแรงให้รับประทานติดต่อกัน 2 สัปดาห์ โดยแพทย์มิได้นัดดูผลแต่อย่างใด แต่พอรับประทานยาจนหมดแล้วก้อนแข็งดังกล่าวยังมีขนาดเท่าเดิม
คุณส้ม จึงตัดสินใจไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลภูมิพล ที่กทม. แพทย์ให้ข้อสังเกตว่าตำแหน่งของก้อนนั้นตรงกับต่อมน้ำเหลืองหากต่อมน้ำเหลืองโตเกิน 1 เดือน สันนิษฐานว่าอาจะเป็นโรคร้ายแรงเช่นมะเร็ง หรือวัณโรค เป็นต้น จึงเจาะดูดเซลล์ที่ก้อนเนื้อนั้นซึ่งโตประมาณ 2 ซม. เพื่อตรวจทางพยาธิวิทยาหาเซลล์มะเร็ง โดยแพทย์สั่งรับประทานยาฆ่าเชื้อชนิดแรงอีก 2 สัปดาห์
สัปาดาห์ที่ 1 เกิดความกังวลใจมาก เพราะ ขนาดก้อนยังคงเท่าเดิม สัปดาห์ที่ 2 ได้อ่านหนังสือนาฬิกาชีวิตเล่ม 2 และหนังสือเรื่องย่านาง จึงเริ่มรับประทานแคปซูลใบมะรุมวันละ 6 แคปซูล ร่วมกับน้ำคั้นสดใบย่านาง น้ำต้มเห็ด 3 ชนิด ทุกวัน ร่วมกับรับประทานยาตามแพทย์สั่ง เมื่อถึงกำหนดฟังผลตรวจเซลล์มะเร็งเป็นที่น่าดีใจ ผล Positive ไม่พบเซลล์มะเร็ง
สัปดาห์ที่3-4 แพทย์ให้ข้อสังเกตว่าตำแหน่งก้อนอาจไม่ใช่ต่อมน้ำเหลือง เพราะผลตรวจไม่พบเซลล์มะเร็ง สันนิษฐานว่าเป็นการโตของต่อมน้ำลาย จึงสั่งยาฆ่าเชื้อให้รับประทานต่ออีก และแจ้งว่าหากไม่ดีขึ้นจำเป็นต้องส่องกล้องผ่าตัด ขณะนั้นรับประทานมะรุมแคปซูลร่วมกับน้ำคั้นสดใบย่านางร่วมด้วยเมื่อพบแพทย์ตามนัดก้อนแข็งเริ่มอ่อนลงเล็กน้อย
สัปดาห์ที่ 5-6-แพทย์สั่งยาฆ่าเชื้อต่ออีก แต่คุณส้มรับประทานแค่สัปดาห์ที่ 5 แล้วตัดสินใจหยุดกินยาฆ่าเชื้อในสัปดาห์ที่ 6 เพราะคุณส้มรู้สึกว่าตนเองรับประทานยาฆ่าเชื้อนานเกินไป จึงรับประทานแต่มะรุมแคปซูลร่วมกับน้ำคั้นใบย่านาง เมื่อไปพบแพทย์ก้อนแข็งยุบลงเหลือ 1 ซม.
สัปดาห์ที่ 7-8 แพทย์สั่งยาฆ่าเชื้ออีก แต่คุณส้มก็ไม่รับประทาน รับประทานแต่แคปซูลมะรุมร่วมกับน้ำใบย่านางเหมือนเดิม เมื่อไปพบแพทย์ปรากฏว่าก้อนดังกล่าวสลายไปจนสามารถคลำพบต่อมปกติใต้คางได้แล้ว และอาการภูมิแพ้ที่เคยเป็นอยู่อาการดีขึ้นหายใจได้สะดวกขึ้น
2.คุณสมชาย( นามสมมติ )ป่วยเป็นมะเร็งที่ลิ้น หลังจากที่ได้ทำการผ่าตัดเอาเนื้อร้ายออกไปแล้วปรากฎว่าแผลจากการผ่าตัดที่ลิ้นซึ่งมีลักษณะแฉะเยิ้มตลอดเวลาถึงแม้จะทำการบำบัดด้วยวิธีการที่คุณหมอบอกทุกประการก็ตาม เวลาได้ผ่านไปเป็นปีๆอาการเยิ้มที่แผลบนลิ้นก็ยังเป็นอยู่ตลอดเวลา สร้างความกังวลให้คุณสมชายเป็นอย่างยิ่ง จนกระทั่งเพื่อนแนะนำให้กินมะรุมแคปซูลตราพี่จุก ซึ่งคุณสมชายก็ไม่เชื่อว่าจะได้ผล แต่ก็คิดว่าไม่มีอะไรสูญเสียจึงทดลองทานมะรุมแคปซูลดู เวลาผ่านไปเดือนเศษๆแผลบนลิ้นเริ่มแห้งไปอย่างน่าประหลาดใจ และมีความสุขมาก
3.ดิฉันตื่นเต้นมากจากผลลัพธ์ในการรักษามะเร็งที่ลำไส้ใหญ่ของคุณพ่อดิฉัน ซึ่งดิฉันไม่เคยเชื่อเลยว่ามะรุมแคปซูลตราพี่จุกจะสามารถรักษามะเร็งได้ แต่ก็ลองให้ทานดู ปรากฏว่าหลังจากให้ท่านทานมะรุมแคปซูลไป 2 โหล และไปพบแพทย์ตามที่นัด หลังจากที่คุณหมอตรวจร่างกายของคุณพ่ออย่างละเอียดแล้ว ไม่พบก้อนเนื้อมะเร็งในลำไส้ใหญ่ของคุณพ่อเหมือนแต่ก่อน แต่มันกลับฝ่อลงและมีขนาดเล็กลงเป็นอย่างเห็นได้ชัด คุณหมอและคุณพ่อต่างก็ดีใจมาก คุณหมอก็งงว่าเป็นไปได้อย่างไร และได้ถามคุณพ่อว่าไปทำอะไรมา คุณพ่อก็ตอบไปว่าเป็นเพราะทานมะรุมซึ่งคุณหมอก็บอกว่าดีๆและให้ทานต่อไป...พวกเราทุกคนรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างยิ่งและก็มีความสุขมากๆ...ต้องขอขอบคุณมะรุมแคปซูลตราพี่จุกของคุณเจี๊ยบและขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนที่ป่วยเป็นมะเร็งด้วยนะคะ..คืออย่ายอมแพ้และขอให้อดทนทานมะรุมแคปซูลอย่างสม่ำเสมอ ต่อเนื่องและในปริมาณที่มากพอตามคำแนะนำของคุณเจี๊ยบนะคะ.....สุขใจ นนทบุรี
4."พี่เจี๊ยบ...พ่อหนูหายแล้วจนคุณหมอ...งงเลยค่ะ เพราะพ่อของหนูเป็นโรคประหลาดซึ่งพบน้อยมากในคนไทย ภายหลังหมอจึงบอกว่าพ่อป่วยเป็นโรค"เมลิออยด์"ที่บริเวณกระดูกสันหลัง"
ตอนแรกหมอไม่ยอมบอกว่าเป็นมะเร็งกระดูก หมอตรวจดูตั้งนาน อีกทั้งทำการเอ็กซเรย์ประมาณ 7-8 ครั้งก็ไม่พบสาเหตุที่แท้จริงว่าเป็นมะเร็งหรือเป็นโรคอะไร ในที่สุดหมอก็ส่งพ่อหนูไปรักษาที่ขอนแก่น ซึ่งก็ตรวจรักษาอยู่นานกว่าจะเจอ เพราะมันผุตรงที่กระดูกสันหลังซึ่งเป็นจุดที่ตรวจเจอค่อนข้างยากหากต้องการรู้ผลอย่างชัดเจนหมอบอกว่าจะต้องเจาะบริเวณกระดูกสันหลัง เพื่อเอาเลือดหรือไขกระดูก(หนูก็ไม่แน่ใจ)เพื่อเอามาตรวจวิเคราะห์ แต่ก็เสี่ยงเพราะพ่ออาจจะเป็นอัมพฤกษ์หรืออัมพาตได้ หรือเดินไม่ได้เหมือนคนปกติ เราตัดสินใจไม่ถูกว่าจะทำยังไงดี ตอนนั้นได้แต่ทำใจและเอาพ่อกลับบ้าน ทำให้หนูคิดว่ายังไงพ่อคงไม่รอด ก็เลยลองค้นหาดูทางเน็ต หาดูสมุนไพรนานาชนิดเพื่อรักษาพ่อแต่ก็ไม่แน่ใจ โดยเฉพาะมะรุมก็มีหลายเจ้าที่ขายผ่านเน็ต ก็บังเอิญมาพบคุณเจี๊ยบคุณแทนเลยลองโทรฯสอบถามได้ข้อมูลแต่ไม่ถูกใจมากนัก มันทำให้หนูคิดว่ายังไงพ่อก็ต้องตายอยู่แล้ว เผื่อยาตัวนี้อาจจะช่วยให้พ่อหนูมีระยะเวลายาวขึ้นมาอีกนิดหนึ่งก็ยังดี เลยลองสั่งซื้อมะรุมแคปซูลตราพี่จุกจากคุณเจี๊ยบให้พ่อลองกินดู กินไปกินมาไม่ถึง 2 เดือนกลับหายเลย ไม่มีอาการเลยค่ะ เหมือนคนตายแล้วได้เกิดใหม่เลยค่ะ ตอนนี้หนูพาพ่อและแม่มาเลี้ยงฉลองกินสุกี้กันและก็พาพ่อไปแล่นบานาน่าโบ๊ตได้เหมือนคนปกติเลยค่ะ ปาฎิหารย์มีจริงๆค่ะ หนูเชื่อแล้ว และตอนนี้หนูก็ได้แนะนำให้ญาติและคนที่รู้จักทานมะรุมแคปซูลตราพี่จุกของพี่เจี๊ยบ หนูขอขอบคุณคุณเจี๊ยบและคุณแทนมากนะคะที่ให้ชีวิตใหม่กับครอบครัวหนู ตอนนี้ครอบครัวหนูมีความสุขมากค่ะคุณเจี๊ยบ"...จากคุณเข็ม...5 กุมภาพันธ์ 2557
ตรวจสอบราคามะรุมแคปซูลตราพี่จุกได้ที่ => http://34ac63a6.linkbucks.com
" ขอเชิญทุกท่านร่วมสร้างมหากุศลด้วยการแบ่งปันประสบการณ์อันทรงคุณค่าของท่านให้สังคมได้รับรู้ ได้ที่ maroomthai@gmail.com ขอบคุณครับ"