ทำอย่างไรเมื่อเซลลูไล้ท์ (ผิวเปลือกส้ม)
ถามหา ???
เซลลูไลท์หรือลักษณะของผิวหนังที่ขรุขระคล้ายผิวเปลือกส้มเกิดจากสาเหตุสำคัญคือเซลล์ไขมันที่สะสมตัวเป็นก้อนอยู่บริเวณใต้ชั้น หนังแท้มีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างผิดปกติจนทำให้ผนังหุ้มเซลล์เกิดการบิดเบี้ยวเพราะถูกดึงรั้งอยู่ใต้ผิวหนังและเกิดเป็นรอยตะปุ่มตะป่ำคล้ายผิว ของเปลือกส้มที่อาจมองเห็นได้ชัดเจนจากผิวหนังชั้นนอกการสะสมตัวอย่างผิดปกติของเซลล์ไขมันนี้ยังทำให้เกิดปัญหาในระบบ ไหลเวียนโลหิตทำให้โลหิตและน้ำเหลืองไหลเวียนได้ช้าเป็นเหตุให้ระบบแลกเปลี่ยนสารต่างๆระหว่างเซลล์เสียสมดุลทำให้โครงสร้าง เนื้อเยื่อของเซลล์ใต้ผิวหนังเสื่อมสภาพและเสียความยืดหยุ่นไปอย่างรวดเร็วระบบการกำจัดของเสียบกพร่องและเกิดการสะสมของเซลล์ ไขมันและน้ำในเซลล์ไขมันเพิ่มขึ้น
เซลลูไลท์ จัดแบ่งตามลักษณะทางคลินิก ได้เป็น 4 ประเภท คือ
1. Hard Cellulite : พบได้บ่อยในผู้หญิงที่อายุน้อย ( 20-40 ปี) และมีการออกกำลังกายเป็นประจำลักษณะ จะเป็นก้อนแข็งเมื่อบีบตาม ร่างกาย จะเป็นก้อนๆ เล็กๆ พบได้บ่อยบริเวณตะโพก บั้นท้าย
2. Flaccid Cellulite : พบได้ผู้หญิงที่อายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไปไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ลักษณะจะเป็นก้อนไขมันนุ่มๆ มีการหย่อนคล้อย กล้ามเนื้ออ่อนเหลว พบได้บ่อยบริเวณ ท้องแขน คาง รอบเอว หน้าท้อง
3. Edematous Cellulite : มักจะพบจากการไหลเวียนของโลหิตไม่ดี การคั่งของน้ำเหลือง ทำให้ลักษณะเหมือนการบวมน้ำกดบุ๋มพบได้บ่อย ที่ต้นขา ตะโพก จะพบว่าผิวหนังมักจะดูบอบบางเห็นเส้นเลือด บวมๆ
4. Mixed Cellulite: มักจะพบได้บ่อยที่สุด ซึ่งในคนๆ เดียว อาจจะพบ Cellulite ทั้งแบบ 1-3 ได้ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ปัจจัยที่ก่อให้เกิด เซลลูไลท์คือ กรรมพันธุ์ แต่ต่างจากกรรมพันธุ์ในเรื่องของเล็บหรือสีและลักษณะเส้นผม ตรงที่เราสามารถขจัดเซลลูไลท์นี้ได้ ซึ่งพบว่า ผู้หญิง จะเกิดเซลล์ลูไลท์ได้ง่ายกว่าผู้ชายเนื่องจากโครงสร้างของ ชั้นไขมันใต้ผิวมีการเรียงรูปร่างแบบฟองน้ำหลวมๆ (Sponge layer) ทำให้มีช่องว่างของของเหลว ในเซลล์ได้มากกว่าผู้ชายที่มีการจัดเรียงรูปร่างของเซลล์ไขมันเป็นแบบก่อกำแพง (Wall layer) ทำให้มีชั้นโครงสร้างผิวที่แข็งแรง การสะสมของของเหลวใต้ชั้นผิวจึงมีน้อยกว่า ดังแสดงในรูป
การดื่มน้ำน้อย เพราะน้ำช่วยการทำงานของระบบขับของเสีย และช่วยขับพิษออกจากร่างกาย กำหนดว่าควร ดื่มน้ำแปดแก้วต่อวัน เป็นอย่างน้อย หรืออาจเป็นนิสัยบริโภคแย่ๆ แอลกอฮอล์ คาเฟอีน อาหารรสจัด ล้วนก่อให้เกิด เซลลูไลต์ได้ทั้งสิ้น เพราะพิษที่สารดังกล่าว ขับออกมาจะถูกกักอยู่ในเนื้อเยื่อไขมัน การลดความอ้วนแบบผอม อย่างรวดเร็วจะยิ่งไปเพิ่มการเกิดเซลลูไลท์ได้เป็นอย่างมาก เนื่องจาก ร่างกายเกิดการตอบรับว่าไม่ได้รับสารอาหาร เพียงพอและต้องพยายามสะสมสารอาหารในร่างกายเพื่อความอยู่รอด การสะสมอาหาร และไขมันแบบนี้เป็นที่มา ของการเกิดเซลลูไลต์ ไขมันเหล่านี้จะกั้นเส้นเลือดและติดหนึบอยู่ในเนื้อเยื่อ จึงทำให้ระบบกำจัดสารพิษ และของเสีย ไร้ประสิทธิภาพ อีกทั้งการใช้ยาลดความอ้วน ยานอนหลับ ยาขับปัสสาวะ จะเข้าไปรบกวนกระบวนการทำงาน ตามธรรมชาติ ของร่างกายโดยเฉพาะระบบชำระเลือดอันนำไปสู่ปัญหาเซลลูไลท์ หรือยาคุมกำเนิดประเภทรับประทาน ซึ่งไปเพิ่มฮอร์โมนเอสโตรเจน จะทำให้เซลไขมันขยายตัวและเก็บน้ำจนบวม ร่างกายก็ไม่มีน้ำพอที่จะขับของเสีย ออกจากร่างกายสุดท้ายก็กลายเป็นเซลลูไลท์ การสูบบุหรี่ ทำร้ายทั้งผิวทั้งปอด ทำให้ผิวอ่อนแอ เส้นเลือดฝอยหดตัว และยังทำให้ เนื้อเยื่อที่เชื่อมต่อกันถูกทำลาย อันเป็นผลให้เกิด คลื่นเซลลูไลท์ รวมทั้งความเครียดเป็นผล ให้กล้ามเนื้อเกร็งตัวหนัก เนื้อเยื่อที่เชื่อมต่อกล้ามเนื้อ ก็ขมวดเกร็งตามไปด้วย ความตึงเครียด ยังไปขวาง เนื้อเยื่อ ไม่ให้กำจัด ของเสียและล้างเลือดให้สะอาด
เซลลูไลท์มีวิธีการขจัดแบบง่ายแต่อาจจะต้องปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ ดังนี้
1. การขัดผิวด้วยวัสดุที่อ่อนโยนไม่ระคายเคืองผิว ซึ่งนอกจากจะทำให้ผิวสดชื่นเนียนนุ่มเปล่งปลั่ง แล้วยังช่วยกระตุ้นการ ไหลเวียน โลหิต อันหมายถึงการขับพิษอย่างสม่ำเสมอและมีประสิทธิภาพ
2. การออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอ เช่น การเดินเร็ว ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ เป็นต้น
3. การรับประทานอาหาร ควรงดอาหารที่มีรสหวานจัด เค็มจัด เพราะอาจจะกระตุ้นให้เกิดการสะสม สารภายในเซลล์มากขึ้น และเกิดการ ขับออกได้ ยากมากขึ้น อาหารที่นิยมรับประทานเพื่อขับพิษได้แก่ ผลไม้สด ผักสด แป้งไม่ขัดขาว และอาหารเส้นใยสูง ควรเลิก กาแฟ น้ำอัดลม บุหรี่และแอลกอฮอล์ สำหรับอาหารพวกน้ำตาล แป้งขาวเกลือ เครื่องเทศ และไขมันสัตว์ จะไปสะสมกลาย เป็นพิษร่างกาย ขับออกยาก แต่อาหารไขมันต่ำและน้ำเปล่า สะอาดๆจะช่วยขับพิษที่ติดตาม เนื้อเยื่อในรูปไขมันส่วน เกินออกจากตัวเราไม่ให้ ้เกาะเป็นคลื่นชั้นไขมัน
4. การนวดช่วยกระตุ้นประสิทธิภาพระบบการกำจัดของเสีย ของร่างกายด้วยการจัดการกล้ามเนื้อ เร่งการ ไหลเวียนโลหิต และระบบ ต่อมน้ำเหลืองที่ช่วยย่อยไขมัน การนวดเฉพาะส่วนในบริเวณที่ปกติการไหลเวียน ของเลือดไม่สะดวก เช่น หัวเข่าด้านในและต้นขา เป็นต้น การนวดขาให้นวดเป็นรูปวงกลม พร้อมทั้งบีบและหยิบเนื้อส่วนนั้นไปพร้อมๆกัน วันละ 2-3 นาที เพื่อละลายไขมันและกำจัดพิษ การนวดอาจ ใช้ครีมที่มีประสิทธิภาพช่วยในการนวดเพื่อ ลดคลื่นไขมัน กระชับผิว และกระตุ้นการไหลเวียนของ โลหิตใต้ผิว เพื่อการขจัดของเสียใต้ผิว ได้เร็วมากขึ้น
***Credited to CMI....Thank you for your info.***